หลังจากที่ ‘ช้างศึก’ มีแข่งกับญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปีใหม่ อิชิอิ เฮดโค้ชก็ปล่อยนักเตะให้พัก สาเหตุหนึ่งในมาจากการที่สโมสรอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมนัดตกข้างที่ต้องมาแข่งเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา และเหล่าแข้งทีมชาติ ก็ตบเท้าเข้ารายงานตัวในวันต่อมาโดยทันที 

สำหรับไทย จะเก็บตัวในประเทศเป็นหลัก และจะเดินทางไปกาตาร์ ในวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งหากไปเทียบกับชาติอื่นถือว่าช้ามาก ประเทศตัวเต็งทั้งเกาหลี และญี่ปุ่น เดินทางไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนวันที่ 4-5 บางประเทศเลือกเดินทางไปเก็บตัวในประเทศข้างเคียงเพื่อปรับเวลา และปรับร่างกายให้เข้ากับสภาพอากาศ 

ทำให้ประเทศไทย กลายเป็นชาติที่เดินทางไปยังกาตาร์ ช้าที่สุดจากบรรดา 24 ชาติที่ร่วมฟาดแข้ง โดยมีรายงานว่า มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นคนปล่อยให้นักบอลได้อยู่กับครอบครัวในช่วงวันที่ 2-6 แต่ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า ทุกอย่างถูกวางกำหนดการณ์ไว้หมดแล้ว ก่อนที่เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น จะเข้ามารับตำแหน่ง

ถัดมาก็มีประเด็นเรื่องที่ยังไม่มีมครซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เอเชียน คัพ ครั้งนี้ ซึ่งสุดท้ายน่าจะได้คนถ่ายก่อนแข่ง 2-3 วันตามเคย 

แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือการประกาศถอนตัวของ เอกนิษฐ์ ปัญญา โดยให้เหตุผลว่า “ต้องการมีโอกาสร่วมฝึกซ้อมในช่วงปรีซีซั่นกับ อุราวะ เรด ไดมอนส์ ต้นสังกัดในเจลีก ญี่ปุ่น หลังทีมมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมาเป็น แพร์ มาเธียส เฮคโม ชาวนอร์เวย์ ทำให้ขอถอนตัว”

หลังข่าวออกปุ๊ป ดราม่าก็ถาโถมเข้าใส่ ‘เจ้าบุ๊ค’ โดยทันที เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน มันค่อนข้างจะเป็นเหตุผลที่เห็นแก่ตัวเกินไป และเกิดขึ้นในเวลากระชั้นชิด หลายๆ ความเห็นบอกว่าถ้าเลือกที่จะแจ้งตั้งแต่ก่อนการเรียกตัว เรื่องราวอาจจะไม่บานปลายขนาดนี้ 

สถานการณ์ของเอกนิษฐ์ กับต้นสังกัดอย่าง อุราวะ เรด ที่ไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวค่อนข้างสดใสในฤดูกาลที่แล้ว ภายใต้การคุมทัพของ มาเซียส สกอร์ซ่า ลงสนามให้กับทีมจากเจลีก 11 นัดในทุกรายการ ทำได้ 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พร้อมกับมีชื่อติดทีมในรายการชิงแชมป์สโมสรโลก ที่แมนฯ ซิตี้ เพิ่งจะคว้าแชมป์ไป แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม 

แต่ประเด็นคือ สกอร์ซ่า ประกาศว่าจะคุมทีมถึงแค่การแข่งขันชิงแชมป์โลก และโค้ชคนใหม่ มาเธียส เฮคโม จะเข้ามาคุมทีมในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทำให้สถานการณ์ของกองกลางทีมชาติไทย เปลี่ยนไปโดยทันที 

นอกจากนี้ต้นสังกัดเจ้าของสัญญาอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็อยากขายขาดให้กับ อุราวะ เรด เต็มที่เพื่อที่จะเอาเงินหมุนเข้ามาทำทีม จึงทำให้เหมือนมีข่าวว่า ทางผู้หลักผู้ใหญ่หรือมีใครบางคน เป็นคนแนะนำให้ บุ๊ค เลือกที่จะถอนตัวออกไปเก็บตัวกับสโมสร 

จริงๆ แล้วอย่างที่บอกไปว่าสถานการณ์ ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลายๆ คนก็เคยปฏิเสธทีมชาติ เพื่อโฟกัสกับสโมสร ล่าสุดก็โคจิ มิโยชิ ปีกทีมชาติญี่ปุ่น ที่เพิ่งย้ายไปเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ของโฟกัสกับสโมสร ไม่ติดทีมชาติชุดนี้ หรืออังเดร โอนาน่า ที่เจ้าตัวต่อรองกับทีมชาติขั้นสุด ถึงขนาดในตอนแรกก็จะไม่ขอติดทีมชาติเช่นกัน แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไปเล่นให้ แต่ไปช้ากว่าเพื่อน 

แล้วทำไมเหตุการณ์เหล่านี้ไม่เป็นที่ดราม่าของประเทศอื่น 

ถ้าลองวิเคราะห์คือ หนึ่งนักเตะเหล่านี้อาจจะเตรียม และมีการพูดคุยกับโค้ช ทีมงานหลังบ้าน รวมไปถึงสมาคมฟุตบอลของประเทศตัวเอง ถึงปัญหาดังกล่าว และคนเหล่านี้ก็มีเวลาเตรียมตัวในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ในกรณีของ เอกนิษฐ์ ที่น่าจะถอนตัวแบบวินาทีสุดท้ายในวันรายงานวัน 

ต่อมาคือ ชาติเหล่านี้มีตัวทดแทนที่ดีพอ และคนที่ขอโฟกัส ไม่ไปเล่นให้ทีมชาติอาจจะยังไม่ใช่ตัวหลักของทีม ในกรณีนี้ถ้าเกิดมีข่าวว่า ซน ฮึงมิน หรือวาตารุ เอ็นโดะ ขออยู่ช่วยสเปอร์ส กับลิเวอร์พูล มากกว่ามาช่วยชาติ ก็อาจจะมีดราม่าตามมาไม่ต่างกัน 

อีกทั้งตอนนี้คนไทย คาดหวังกับฟอร์มการเล่นของ ‘เจ้าบุ๊ค’ ในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเป็นอย่างที่สุด เพราะเราไม่มี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่บาดเจ็บจนไม่ติดทีม รวมถึงดีกรีในแนวรุก เอกนิษฐ์ ก็ดูดีกว่าหลายๆ คน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคีย์แมนที่แฟนบอลไทยพอจะฝากความหวังได้

ประเด็นต่อมาคือ ‘บุ๊ค’ ได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนบอลชาวไทยอยู่ตลอดเวลา ด้วยนิสัยที่อาจจะไม่ค่อยพูด แต่อ่อนน้อม มุ่งมั่นเต็มที่ในสนาม และอารมณ์ ความกระหายเวลาลงเล่นให้ทีมชาติก่อนหน้านี้ ทำให้เจ้าตัวเป็นที่รักของทุกคน รวมถึงยามลงเล่นให้ อุราวะ เรด ก่อนหน้านี้ ทั้งเขายังเคยบาดเจ็บหนัก จนฟอร์มตกลงไป แต่ก็ยังกลับมาได้แข็งแกร่งกว่าเดิม และไปไกลกว่าเดิมด้วย 

ทำให้การออกมาขอถอนตัวครั้งนี้ เป็นที่น่าตกใจ ของทุกๆ คนในวงการฟุตบอลไทย เพราะไม่เคยมีใครคิดว่า คนอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จะเลือกเส้นทาง และการตัดสินใจแบบนี้

ชาติ กับสโมสร อะไรสำคัญกว่า คงจะเป็นคำถามที่เจ้าบุ๊ค ถูกผูกติดไว้ต่อจากนี้ไปอีกนาน กับเส้นทางที่เขาตัดสินใจ แบบไม่สนใจ ‘ทีมชาติไทย’ ส่วนสุดท้ายตื้นลึกหนาบางจะเป็นเช่นไร ณ วันนี้มีแต่เพียงข่าวลือ แต่ทุกคนก็ผิดหวังกับหนึ่งในอนาคตของ ‘ช้างศึก’ แบบกู่ไม่กลับแล้ว